[Gintama fic] Night (GintokixHijikata)
Warning Yaoi !! เผอิญหลงรักฮิจิคาตะเคะ เลยลองผลิตฟิคดูสักครั้ง
ผู้เข้าชมรวม
3,173
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Title : Night
Author: Monochrome bird
Category: Drama (ล่ะมั้ง??)
Pairing: กินโทคิxคุณฮิจิคาตะ
Rating: 15+ (คิดว่านะ)
Disclaimer: ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นของอ.โซราจิค่ะ พวกเราแค่ยืมมาจิ้นเล่นเท่านั้น
Author notes: แต่งฟิคกินทามะครั้งแรก ทนไม่ไหว อยากระบายจินตนาการในหัว แต่เหมือนจะเผาไปนิด
บรรยากาศก็ไม่ค่อยเหมือนมังงะเท่าไร แต่พยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว
++++++++++
หนทางที่ก้าวเดินผ่านมานั้น...เต็มไปด้วยเลือด...
หนทางที่ก้าวเดินต่อไปนั้น...เต็มไปด้วยขวากหนาม...
หนทางที่เลือกก้าวเดินนั้น...เต็มไปด้วยอันตราย...
ชีวิตที่ว่ายวนเวียนอยู่ในวังวนแห่งการต่อสู้...
ผ่านคืนวันที่แสนเศร้า...และโหดร้าย...
ไม่เคยเสียใจ...ไม่เคยโทษใคร...เป็นสิ่งที่เลือกเอง...
...แต่ใช่ว่า...เรื่องราวเหล่านั้น...จะไม่ฝังลึกในความทรงจำ...
++++++++++
กล่าวกันว่าความฝันเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของความทรงจำที่หยั่งรากลึกอยู่ในหัวใจ
ความรู้สึกต่างๆที่เจ้าของพยายามลืม ฝังมันเอาไว้ไม่ให้ใครเห็น กลับผุดขึ้นมาทุกครั้ง เมื่อหลับตาลง
ตอกย้ำถึงความผิดบาปที่เคยกระทำไว้ เพื่อให้รู้ว่าทุกย่างก้าวที่เหยียบย้ำผ่านมานั้น ถูกชโลมด้วยสิ่งใด
ดวงตาสีดำเบิกโพลงมองเพดานห้อง เมื่อเจ้าตัวสะดุ้งตื่นจากความฝัน มือทั้งสองกำแน่น เหมือนต้องการจะสะกดกลั้นอารมณ์
ร่างกายชื้นเหงื่อที่ไหลลงมาอย่างไม่รู้ตัว ชายหนุ่มค่อยๆลุกขึ้น สูดลมหายใจลึกๆ ก่อนตัดสินใจออกไปสูบบุหรี่สักมวน เพื่อให้อารมณ์สงบลง
แสงไฟจากกล่องเหล็กสีเงินในมือสว่างวาบ แข่งกับแสงจันทร์เพียงชั่วแวบเดียว ก่อนจะเหลือเพียงไฟแดงๆ ที่ปลายบุหรี่
ซึ่งคาบค้างอยู่ในปาก ควันสีขาวถูกพ่นออกไปในอากาศ จางหายไปเหมือนถูกกลืนหายไปในความเงียบ
“รองฯ ออกมายืนทำอะไรครับเนี่ย”
ยามาซากิที่เดินออกมาเข้าห้องน้ำกลางดึก เห็นหลังคนจากที่ไกลๆ ด้วยเลือดการเป็นหน่วยสอดแนม จึงต้องเข้าไปดูใกล้ๆ
ก็พบว่าไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นแค่รองหัวหน้าปีศาจ ออกมายืนดูดมะเร็งกลางดึก
“ไม่มีตาดูหรือไง ?”
แค่คำตอบก็ทำให้คนตำแหน่งต่ำกว่า อยากทำตัวลีบเล็กแล้วหายไปจากตรงนั้น ถือซะว่า ไม่เคยได้ยินคำถามนั้นแล้วกัน
ในความเป็นจริงก็ได้แต่ ก้มหัวรับคำแล้ววิ่งแจ้นกลับไปห้องนอนอย่างรวดเร็ว
ควันสีขาวลอยวนเวียนอยู่ในอากาศแล้วจางหายไป แต่กลิ่นของมันยังคงอยู่ แม้จะไม่มีรูปร่างแล้วก็ตาม
ความทรงจำก็เป็นแบบนั้น ในตอนแรกมันก็เด่นชัดแล้วค่อยๆเลือนหาย
แต่ในที่ไหนสักแห่งของจิตใจ มันก็ฝังลึกลงไป แม้เจ้าของจะคิดว่า จดจำไม่ได้แล้วก็ตาม
++++++++++
“โทชิ~”
ไม่ต้องหันไปดู คนทั้งกองก็รู้ว่าเป็นใคร มีเพียงคนเดียวที่กล้าเรียกรองหัวหน้าปีศาจด้วยชื่อแบบนั้น
คอนโดเดินเข้ามาด้วยท่าทีร่าเริงแจ่มใส เหมือนมีอะไรบางอย่างอยากจะเล่าให้ฟัง
แต่มาเจอคนที่ตัวเองเรียกตะโกนสั่งงานนู่นนี่ ผสมโรงกับการด่า กลายเป็นสั่งประโยคหนึ่งด่าอีกประโยคหนึ่ง
“โซโกะ...วันนี้โทชิ อารมณ์ไม่ดีเหรอ ?”
“ทำไมเหรอครับ ?”
“ก็เห็นท่าทางแปลกๆ”
“ผมว่า หน้าคุณฮิจิคาตะ มันก็บูดเป็นตูดลิงอยู่ทุกวัน”
หลายคนแอบพยักหน้าเห็นด้วยกับหัวหน้าหน่วย 1 ของชินเซ็นกุมิ เพราะรองหัวหน้าชอบทำหน้าตาน่ากลัว
สมฉายาปีศาจ ถ้าจะถามว่า อารมณ์บูดหรือเปล่า คงต้องตอบว่า ก็เห็นถูกด่าทุกวัน ก็คงอารมณ์บูดทุกวันนั่นแหละ
“ว่าอะไรนะ โซโกะ”
รองหัวหน้า นอกจากจะมีหน้าตาบูดบึ้งเหมือนปีศาจ โหดเหมือนปีศาจ แล้วยังหูดีกับคำนินทาอีก
สงครามที่เห็นกันจนชินตา กำลังทำท่าจะปะทุ อยู่ๆโอคิตะก็เกิดถอยขึ้นมา
“งั้นผมออกไปลาดตระเวนนะครับ”
“ทำไมอยู่ๆเกิดขยันขึ้นมาวะ ?”
“ผมก็ขยันทำหน้าที่ตัวเองอยู่ทุกวันนะครับ คุณฮิจิคาตะ”
แทนที่จะเปิดฉากออกกำลังกายยามเช้ากันดังเช่นปกติ หัวหน้าหน่วย 1 กลับเป็นฝ่ายหลบฉาก โดยใช้การลาดตระเวน
เป็นข้ออ้าง เพื่อแอบไปนอนกลางวัน หรืออู้งานที่อื่น แต่คนอื่นๆในกองก็ยังนึกสงสัยว่า ทำไมวันนี้หัวหน้าโอคิตะถึงยอมถอย
ปกติแล้วดูจะสนุกสนานกับการทะเลาะและยั่วโมโหนี่นา
“มัวแต่ยืนมองกันอยู่นั่น เร่งมือเข้าสิ !!”
หลังจากคำสั่ง ก็มีคำด่าตามมาข้างหลังยาวยืด จนทุกคนต้องรีบคว้างานแทบไม่ทัน กลัวว่า ถ้าไม่รีบจะไม่ใช่แค่คำด่าที่ลอยมา
แต่อาจเป็นมีดหรือดาบบินมาปักกลางกบาลก็เป็นได้
++++++++++
“อ้าว ?”
“ไงครับ บังเอิญจังเลยนะครับ”
โอคิตะนั้น กำลังเดินลาดตระเวนอยู่ แล้วก็บังเอิญมาเจอกับเจ้าของสารพัดรับจ้างพอดี ไม่รู้ว่าโชคชะตาอันใดที่
ชักพาให้พวกเขามาเจอกันที่ในร้านสารพัดรับจ้าง ตอนที่ชายหนุ่มผมขาวกำลังนั่งกินข้าวโพดคั่วหวานสุดๆ
“บังเอิญ บ้าอะไรครับ !! อย่างนี้เขาเรียกว่า ตั้งใจมาหาต่างหาก”
ชินปาจิตะโกนขึ้นมา เมื่อเห็นว่า โอคิตะเดินเข้ามาในร้าน แล้วทักทายคุณกิน ราวกับเจอกันตรงถนนในเมือง
ทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายตั้งใจมาหาแท้ๆ ทำไมจะต้องใช้คำพูดให้มันวุ่นวายด้วยนะ
“เปล่านะ ผมแค่บังเอิญเดินผ่านมาทางนี้”
เจ้าตัวยังคงเน้นคำว่า “บังเอิญ” แบบสุดๆ ไม่ยอมรับว่า ใครที่ไหนมันจะเดินเข้ามาในร้านโดยบังเอิญ
แถมยังตรงดิ่งเข้ามาหาคนที่กำลังนั่งกินข้าวโพดคั่วอยู่หลังโต๊ะ โดยบังเอิญอีกด้วย
“แล้ววันนี้นายมาคนเดียวเหรอ ?”
“หวังจะให้ผมมากับใครเหรอครับ ?”
เป็นการตอบคำถามด้วยคำถาม ทั้งสองคนสบตากันอย่างรู้ความหมาย โดยที่ไม่ต้องอธิบายให้มากกว่านั้น
มีเรื่องบางอย่างที่ไม่อาจพูดออกมาได้ แต่ก็ยังอยากจะทำบางสิ่งให้ เป็นความผูกพันแบบแปลกๆ
“ผมไปลาดตระเวนต่อดีกว่า...”
“วันนี้คุณฮิจิคาตะอารมณ์ไม่ค่อยดีด้วย...”
“งั้นเหรอ ?”
เป็นคำตอบสั้นๆจากปากของคนที่ชอบตัวเรื่อยเปื่อย แต่โอคิตะรู้ดีว่า อีกฝ่ายเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจะบอก
แม้จะดูเหมือนเรื่องเหลวไหลในสายตาของคนอื่น บทสนทนาที่ไม่สาระใดๆ แต่สำหรับคนที่รู้ความหมายของมันแล้ว
สำหรับคนที่เข้าใจถึงความสัมพันธ์อันแปลกประหลาด...
จะสัมผัสได้...ถึงความห่วงใย...
+++++++++++
เมื่อความมืดแผ่ปกคลุม เปลี่ยนท้องฟ้าให้กลายเป็นสีดำ ดวงจันทร์ลอยเด่นอยู่เบื้องบน
บ่งบอกว่า ตอนนี้เป็นยามกลางคืนที่มนุษย์ควรหลับพักผ่อน จะได้มีเรี่ยวแรงตื่นขึ้นมา ต่อสู้กับวันใหม่
ฮิจิคาตะ โทชิโร่ยังคงนั่งทำงานอยู่ในห้อง มือข้างหนึ่งกำลังเขียนเอกสาร ส่วนอีกข้างหนึ่งขยี้บุหรี่ให้ดับ
งานในส่วนของวันนี้เรียบร้อยแล้ว สักพักคงจะไปอาบน้ำแล้วเข้านอน
นอน...เขาจะนอนหลับหรือเปล่านะ...
บางครั้งพอรู้สึกว่า ตัวเองจะต้องฝันถึงเรื่องราวแปลกประหลาด...ก็มักจะหลับไม่ลงทุกครั้ง...
หรือถึงหลับไปแล้ว...ก็คงสะดุ้งตื่นขึ้นมาอยู่ดี...
ช่างมันเถอะ...ก็แค่เรื่องไร้สาระ...
คิดไปแล้วได้อะไรขึ้นมา...
จะฝันไม่ฝันก็ช่างหัวมัน...
คิดอย่างนั้นแล้ว เขาก็เก็บรวบรวมเอกสารทั้งหมดให้เรียบร้อย แล้วเดินออกไปอาบน้ำ เพื่อเตรียมตัวจะเข้านอน
เมื่อกลับมาอีกครั้ง เขากลับพบร่างของใครคนหนึ่งที่มีผมหยักศกสีขาวนอนกลิ้งอยู่บนพื้นห้อง ไม่สิ ถือวิสาสะปูฟูก
ของเขาเสร็จสรรพ แล้วขึ้นไปนอนอยู่บนนั้นต่างหาก
“ไง ?”
ทักทายยังกับเจอกันที่ริมถนน ไม่ใช่ในห้องส่วนตัวของเขา ไอ้บ้านี่ มันเข้ามาได้ยังไงกัน
มองหน้าตายิ้มๆ เหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับการบุกรุกความเป็นส่วนตัวของคนอื่น เห็นแล้วหงุดหงิด
อยากจะเอาดาบฟันให้หัวแบะ แต่เดี๋ยวที่นอนจะเปื้อนเลือดหมด
“ดึกแล้ว รีบมานอนสิ...”
ผู้บุกรุกตบที่ว่างบนฟูกข้างตัว ทำตัวราวกับเป็นเจ้าของห้อง แถมยังไม่สนใจหน้าตาหงิกๆของอีกฝ่าย
สุดท้ายก็เลยโดนลูกเตะไป อัดที่ท้องไปจังๆหนึ่งที กลิ้งตกจากฟูกไปนอนแผ่อยู่บนพื้นห้อง
“ออก...ไป...”
ย้ำแต่ละคำด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและจริงจัง พร้อมกับชี้นิ้วไปที่ประตู แต่อีกฝ่ายเพียงแค่ยันตัวลุกขึ้น
รอยยิ้มกว้างยังไม่เลือนหายไปจากใบหน้า นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขายิ่งหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก
“ใจร้ายจัง อุตส่าห์มาหาแท้ๆ”
“ใครเชิญ ?”
“ก็...ไม่มีใครเชิญหรอก...แค่...”
ยังไม่ทันต่อให้จบประโยค ร่างของคนที่ยืนอยู่ก็ถูกกระชากให้ตกลงมาในอ้อมแขน ก่อนจะถูกจับพลิกตัว
ตรึงเอาไว้กับฟูกที่นอน สภาพในตอนนี้เสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด
“ปล่อยนะเว้ย !!”
“ทำตัวดีๆหน่อยสิ...”
ฮิจิคาตะสบถไม่หยุด ขณะยังคงดิ้นรน แม้จะไม่สำเร็จ เขารู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่บริเวณต้นคอ
มันทำให้ความรู้สึกแปลกๆแล่นไปทั่วร่างกาย
“ช่วงนี้...ฝันไม่ดีเหรอ..”
เสียงที่กระซิบข้างหูนั้นแผ่วเบา แต่กลับอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อ คำพูดนั้นทำให้เขาหยุดดิ้นรน
แต่เปลี่ยนเป็นจ้องตาคู่นั้นตรงๆ เพื่อค้นหาคำตอบของคำถามที่ผุดขึ้นมาในใจ
“เปล่าซะหน่อย...นายไปได้ยินมาจากไ...”
ด้วยน้ำเสียงและคำพูดที่ตอบนั้น ไม่ว่าใครก็รู้ว่าโกหก กินโทคิจึงไม่รอให้อีกฝ่ายพูดจบ ก็จัดการปิดปากด้วยจูบ
รสสัมผัสในโพรงปากนั้น ยังคงเร้าร้อนและหอมหวานดังเช่นทุกครั้ง
“นอนซะ”
คำพูดนั้นดูคล้ายจะเป็นคำสั่ง ทำให้คนที่รั้งตำแหน่งรองหัวหน้าของชินเซ็นกุมิรู้สึกต่อต้านขึ้นมา
แต่ยังไม่ทันจะอ้าปากพูดอะไร เจ้าของร้านสารพัดรับจ้างก็รีบขัดขึ้นมาก่อน
“หรือว่าอยากทำอย่างอื่น ?”
เพียงแค่นั้น คำพูดทั้งหลายก็ถูกกลืนหายลงไปในลำคอ ยังหลงเหลือเพียงแค่หน้าตาบูดบึ้งด้วยความไม่พอใจ
กินโทคิขยับตัวมานอนข้างๆ แต่ยังคงโอบกอดร่างนั้นเอาไว้
“ราตรีสวัสดิ์...”
“ปิดไฟด้วยสิ”
“ครับๆ”
แม้จะรับคำด้วยน้ำเสียงเกียจคร้าน แต่ก็ยอมลุกไปปิดไฟให้แต่โดยดี เมื่อล้มตัวลงนอนข้างๆอีกครั้ง
ก็ยังพยายามดึงร่างนั้นเข้ามากอดเอาไว้ แม้จะถูกผลัก ถูกเตะไปบ้างก็ตาม
“แค่นอนเฉยๆนะ...”
“รับรองว่านอนเฉยๆ ยกเว้น...จะมีการเรียกร้องมากกว่านั้น...”
นึกอยากจะเอาศอกถ่องไอ้บ้าที่นอนข้างๆ แต่ถ้าทำแบบนั้น สงสัยว่าคืนนี้จะไม่ต้องนอนทั้งคืน จึงพยายามหุบปากนิ่ง
ข่มตาหลับลงให้ได้ แม้จะรู้สึกรำคาญที่ต้องมานอนเบียดกับคนอื่น
อุ่น...อย่างน้อยร่างกายมนุษย์ก็อบอุ่น...
ถึงจะเป็นร่างกายของมนุษย์โง่ๆก็ยัง...อบอุ่น...
...ที่จริง...การมีคนนอนข้างๆ...ก็อาจไม่เลวร้ายนัก...
++++++++++
ขอบคุณทุกท่านนะคะที่อ่านกันมาจน ถึงตรงนี้ ที่จริงอาจจะสั้นไปนิดนึง เพราะไม่อยากสร้างไหดองเพิ่ม
แล้ว รู้สึกว่า คนไทยส่วนใหญ่ดูจะชอบ HG มากกว่า GH แต่สำหรับ เรา ยังไงก็ต้อง GH ค่ะ 555+ แหวกกระแสนิดนึง
อาจ จะเพราะไปประทับใจโดญี่ปุ่นที่เป็น GH น่ะค่ะ ก็เลยฝังใจ ไม่อาจทำใจสลับข้างได้จริงๆ
ที่จริงก็อยากแต่งต่อค่ะ ถ้าเกิดว่าง และมีคนอ่าน คนเมนต์ จำนวนพอสมควรก็คงแต่งต่อล่ะค่ะ
เพราะฉะนั้น ใครที่หลงเข้ามาอ่าน ช่วยคอมเมนต์หน่อยเถอะค่ะ >0< พูดตามตรง อยากได้กำลังใจ
ถ้าให้ดี กรุณาติชม จะได้นำไปแก้ไขปรับปรุงตัวเอง
แต่ อย่างไรก็ตาม แค่คลิกเข้ามาอ่านจนจบก็รู้สึกขอบคุณแล้วค่ะ
ขอบคุณมากๆนะคะ
ผลงานอื่นๆ ของ monochrome bird ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ monochrome bird
ความคิดเห็น